บุคคลธรรมดามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท

บุคคลธรรมดามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต้องจดเป็นรูปบริษัทหรือไม่? และการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจะต้องพิจารณาจากอะไร? บทความนี้มีคำตอบ

บุคคลธรรมดามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท

รายได้เกิน1.8 ล้านบาทต่อปี คือตัวเลขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้เพื่อต้องจดเข้าระบบ VAT การทำธุรกิจจะต้องดูตัวเลขอยู่ตลอดว่ารายได้เกิน 1.8 ล้านบาทหรือยัง?

ถ้าใกล้ถึงแล้วต้องเตรียมความพร้อมที่จะจดเข้าระบบ VAT มีเวลาดำเนินการภายใน 30 วันหลังจากมีรายได้หากล่าช้ากว่านั้นอาจจะมีเบี้ยปรับเงินเพิ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง แถมยังส่งผลให้ยื่นภาษี (ภ.พ.30) ล่าช้าอีกด้วย

ทั้งนี้หากธุรกิจมียอดขายเพิ่มมากขึ้น มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท หลังจากหักรายรับ – รายจ่าย ต้นทุนและมีกำไรเกิน 1 ล้านบาทต่อปี ควรพิจารณาการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจว่าควรจดเป็นรูปแบบบริษัทหรือเปล่า?
ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องคอยสังเกตธุรกิจอยู่ตลอดเวลาเพราะทั้ง 2 รูปแบบมีความแตกต่างกัน เนื่องจากกำไรที่มากขึ้นภาษีในนามบุคคลธรรมดาจะสูงกว่าภาษีนิติบุคคล

วิธีการพิจารณาตัวเลขเพื่อเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเมื่อมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท

การเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจะพิจารณาจาก กำไร ไม่ใช่ ยอดขาย เพราะหากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คือ ตัวเลขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้เพื่อให้ธุรกิจจดเข้าระบบ VAT

  • การเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจะ พิจารณาจาก ” กำไร “
  • การจดเข้าระบบ VAT พิจารณาจาก ” ยอดขาย “
  • รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คือตัวเลขที่กรมสรรพากรกำหนดเพื่อจดเข้าระบบ VAT

ตัวอย่างการคำนวณรายได้

หากธุรกิจมียอดขายเพิ่มขึ้นหลังจากหักรายรายรับ – รายจ่าย ต้นทุนและมีกำไร เกิน 1 ล้านบาทต่อปี

ควรพิจารณาการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเนื่องจากกำไรที่มากขึ้น “ภาษีบุคคลธรรมดา สูงกว่า ภาษีนิติบุคคล”

เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อจดเข้าระบบ VAT

  • คำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.01) จำนวน 4 ฉบับ
  • คำขอแจ้งขอใช้สิทธิเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.01.1) จำนวน 4 ฉบับ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • กรณีที่อยู่บ้านเช่า ต้องมีสัญญาเช่า แผนที่/รูปถ่ายบริเวณหน้าบ้านและในบ้านให้เห็นว่ามีสถานที่ประกอบการจริง
  • สามารถยื่นจดที่สรรพากรพื้นที่ หรือ ยื่นจดทางออนไลน์ได้เลยเพื่อความสะดวกไม่ต้องเดินทาง

สิ่งที่ควรทำหลังจากจดเข้าระบบ VAT

  • ออกใบกำกับภาษีขาย 7% (หน้าที่ผู้ประกอบการ)
  • ขอเอกสารใบกำกับภาษีซื้อ (หน้าที่ผู้ประกอบการ)
  • ทำรายงานประจำเดือนภาษีซื้อ – ภาษีขาย (จ้างสำนักงานบัญชีได้)
  • ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.30) หรือเรียกว่า ภาษีรายเดือน
    ถึงแม้ไม่มียอดขายก็ต้องนำส่งแบบเปล่า (จ้างสำนักงานบัญชีได้) *หากไม่ได้ยื่นในเดือนนั้นๆจะโดนค่าปรับเดือนละ 500 บาท*
  • หากภายในบริษัทมีพนักงานที่พอมีพื้นฐานบัญชี – ภาษี ที่ทำข้อ 1 – 4 ได้ก็สามารถทำในบริษัทได้เลย

หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ไม่ได้จดเข้าระบบ VAT

  1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. จะถูกเรียกเก็บภาษีนับตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี
  3. ต้องเสียค่าปรับเป็น 2 เท่า ของภาษีที่จะต้องชำระในแต่ละเดือนภาษี
  4. เสียเงินเพิ่ม 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ถ้าเศษของเดือนก็จะถูกนับเป็นอีก 1 เดือน
  5. ไม่สามารถนำภาษีซื้อที่เกิดในเดือนนั้นมาหักภาษีขายได้

ตอนนี้ใครที่รู้ตัวว่า รายได้เกิน 1.8 ล้าน และเกินกำหนดเวลาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต้องรีบเตรียมเอกสาร คำนวณค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องจ่าย และค่าปรับจากการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มล่าช้า ไปยื่นจดภาษีมูลค่าเพิ่มให้ถูกต้อง อย่ามัวนิ่งเฉยรอให้ทางกรมสรรพากรตรวจสอบเจอเอง นอกจากจะต้องเสียเบี้ยปรับ 2-20% เงินเพิ่ม 1.5% และยังต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายอีกด้วย


ติดต่อบริการทำบัญชี

ติดต่อสำนักงานบัญชี บริษัท กรีนโปร เคเอสพี แอคเคาท์ติ้ง จำกัด
ที่อยู่ 32/8 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 73 (พรกุลวัฒน์) แขวง ออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์: 8.30 – 17.30 น.
แอดไลน์คลิกลิงก์: @greenprokspacc
โทร085-067-4884

Add Friend
ให้คะแนน
แชร์