WORKFLOWธุรกิจ คืออะไร?

WORKFLOWธุรกิจ จะเป็นตัวช่วยในกระบวนการจัดการเอกสารบัญชีต่างๆภายในบริษัทให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีแบบแผน มีระเบียบ ได้อย่างไร?

WORKFLOWธุรกิจ

WORKFLOW รายได้และการรับชำระเงิน ธุรกิจจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งจะแตกต่างกันเรื่องเอกสาร รวมถึงการรับรู้รายได้ การรับรู้เอกสารใบกำกับภาษี

  1. ซื้อมาขายไป
  2. บริการ

ธุรกิจผลิต / ขาย

WORKFLOW ฝั่งรายได้และฝั่งขาย เริ่มจากที่ลูกค้าสนใจสินค้าและจะต้องออกใบสั่งซื้อ
(P/O = Purchase order) หรือออเดอร์สินค้าเข้ามา จากนั้นเราจึงจัดของส่งให้ลูกค้า

บริษัทมีการจดเข้า VAT = ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี
บริษัทขายสินค้าเป็นเงินสด = ใบเสร็จรับเงิน / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี

บริษัทขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ โดยให้เครดิตลูกค้าเช่น 15-30 วัน แล้วค่อยนำเงินมาชำระ = ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี / ใบแจ้งหนี้

เมื่อลูกค้าชำระเงินมาแล้ว ทางบริษัทต้องออกใบเสร็จรับเงินตามจำนวนจริง

WORKFLOW ฝั่งบริการ เริ่มจากที่ลูกค้าสนใจสินค้าเราและมีการออกใบสั่งซื้อ
(P/O = Purchase order) หรือส่งคำสั่งซื้อเข้ามา

เมื่อทำงานเสร็จต้องออกเอกสารให้ลูกค้า = ใบวางบิล หรือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการ

กรณีงานรับเหมา หรือ งานก่อสร้าง = ออกใบแจ้งหนี้ตามงวดงานที่ถึงกำหนดชำระ

จุดที่ออกใบแจ้งหนี้ค่าบริการสำหรับงาน SERVICE ตัวนี้ยังไม่เป็นใบกำกับภาษี เนื่องจาก TAX POINT ยังไม่เกิด จะส่งเอกสารแค่ใบแจ้งหนี้ค่าบริการและใบส่งมอบงาน

ในกรณีขายเป็นเงินสด = ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี

ในกรณีให้เครดิต 15-30 วัน = ออกใบวางบิล แจ้งค่าบริการและออกใบเสร็จ เมื่อลูกค้าได้ชำระค่าบริการ

TAX POINT เกิดเมื่อได้รับชำระสำหรับธุรกิจบริการ
วันที่ลูกค้าชำระเงิน บริษัทจะต้องออกใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี

จะเห็นว่าความแตกต่างของเอกสารคล้ายกัน จะมีจุดต่างกันที่ใบกำกับภาษีว่าจุด TAX POINT อยู่ตรงไหน

TAX POINT

  • ธุรกิจ Trading เกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า
  • ธุรกิจ Service เกิดขึ้นเมื่อรับชำระเงินจากลูกค้า

WORKFLOW ฝั่งซื้อและฝั่งจ่ายเงิน

เมื่อฝั่งเรามีความต้องการที่จะซื้อของ จะเริ่มต้นด้วยการออก PR / PO
แต่บริษัทขนาดใหญ่ ที่มีหลายแผนกจะเขียนใบ PR = Purchase request ให้ฝ่ายจัดซื้อ

เมื่อฝ่ายจัดซื้อได้รับเอกสารมา ก็จะดำเนินการหาซัพพลายเออร์และเปรียบเทียบราคา หากได้รับการอนุมัติแล้วฝ่ายจัดซื้อจะเปิดใบ PO = Purchase order ให้กับซัพพลายเออร์

ในวันที่ได้รับของหลังจากที่ส่งใบ PO แล้วเอกสารที่เกิดขึ้น = ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี
จุดตรงนี้ TAX POINT ก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน และเอกสารภาษีซื้อก็จะส่งต่อให้ทางทีมบัญชีทำเรื่องการขอคืนภาษีซื้อ

เอกสารด้านฝั่งซื้อ

ถ้าหากจ่ายเป็นเงินสด เอกสารจะเป็น = ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน
ถ้าหากจ่ายแบบเครดิต เอกสารจะเป็น = ใบส่งของ / ใบกำกับภาษี / ใบวางบิล,ใบแจ้งหนี้

เอกสารด้านฝั่งจ่าย

เมื่อถึงรอบเครดิตที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์ วันนั้นก็จะได้รับใบเสร็จ

ฝั่งงานบริการเมื่องานเสร็จสิ้นต้องทำอย่างไร?

ถ้าใช้บริการซัพพลายเออร์ในเรื่องของ ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา / ค่าบริการทำบัญชี หรือบริการอื่นๆ
Flow เอกสารจะเหมือนกัน จะมี PR จากแผนกต่างๆมา และส่ง PO ไปให้ลูกค้า เมื่อบริการเสร็จแล้ว
หากเราจ่ายค่าบริการเป็นเงินสด เอกสารจะเป็น = ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี ถือว่าใบกำกับภาษี TAX POINT เกิดแล้ว

หากเราจ่ายค่าบริการเป็นเครดิต = ใบแจ้งหนี้ / ใบวางบิล

เมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องจ่ายเงินให้กับซัพพลายเออร์ จะมีเรื่องของการรับใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี

เอกสาร Work Flow ฝั่งซื้อและฝั่งขาย “ใกล้เคียงกัน แต่ สลับข้างกัน” แยกเอกสารให้เป็นระบบ ซึ่งเอกสารทั้งหมดจะคล้ายกัน แค่สลับข้างกันเท่านั้นเอง

  1. ระบบด้านซื้อ ด้านจ่าย
  2. ระบบด้านขาย ด้านรับ
  3. ธุรกิจเป็นซื้อมาขายไป หรือบริการ เพราะจุด TAX POINT จะต่างกัน
  4. ซื้อขายเป็นเงินสดหรือเป็นเงินเชื่อ

ติดต่อบริการWORKFLOWธุรกิจ

ติดต่อสำนักงานบัญชี บริษัท กรีนโปร เคเอสพี แอคเคาท์ติ้ง จำกัด
ที่อยู่ 32/8 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 73 (พรกุลวัฒน์) แขวง ออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์: 8.30 – 17.30 น.
แอดไลน์คลิกลิงก์: @greenprokspacc
โทร085-067-4884

Add Friend
ให้คะแนน
แชร์